ขอนแก่น (ชมคลิป) DSI เปิดปฎิบัติการปราบ “เงินกู้ออนไลน์” หลังพบชาวบ้านตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก

ดีเอสไอ เปิดปฎิบัติการปราบเงินกู้ออนไลน์ หลังพบชาวบ้านตกเป็นเหยื่อเงินกู้ออนไลน์เป็นจำนวนมาก เริ่มคิกออฟที่ขอนแก่น พบชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนหลายร้อยราย พบระบบกู้เงินออนไลน์หลายแอฟพลิเคชั่นข้อมูลเชื่อมโยงกัน เตรียมรวบรวมหลักฐานเอาผิด

           22 พ.ย. 66 นายจักรภพ กลิ่นหอม ผู้อำนวยการอำนวยความยุติธรรม 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นายวิศิษฎ์ นรสิงห์ นายอำเภอมัญจาคีรี พนักงานสอบสวน สภ.มัญจาคีรี และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้ลงพื้นที่มารับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้านในพื้นที่อำเภอมัญจาคีรี ที่เป็นลูกหนี้ผ่านการกู้เงินออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชั่นเงินกู้แล้วถูกข่มขู่ คุกคาม ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและอับอาย จากการติดตามทวงหนี้ จนผู้กู้บางรายเกิดความหวาดกลัวและอยู่อย่างหวาดระแวง พบมีชาวบ้านที่ทราบข่าวทยอยเดินทางมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องหลายสิบราย ขณะที่หลายรายยังไม่กล้าเข้ามาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่เพราะยังกังวลใจในเรื่องความปลอดภัยและขู่คุกคาม และเสียชื่อเสียง

            ชายวัย 36 ปี รายนี้ ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว แต่มีปัญหาเรื่องเงินทุนหมุนเวียนขาดมือ ต้องไปกู้เงินผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจากเงื่อนไขง่าย เพียงบัตรประชาชนใบเดียวก็สามารถกูเงินได้ จึงทำให้เขาตัดสินใจกู้เงินมาในจำนวน 2,000 บาท แต่ต้องจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย รวม 2,650 บาท ในระยะเวลา 6 วัน หากไม่จ่ายเงินคืนตามระยะเวลาที่กำหนดก็จะถูกข่มขู่คุกคามพร้อมกับปรับดอกเบี้ยเพิ่มไปอีกเท่าตัว ทำให้เกิดความเครียดและวิตกกังวลเป็นอย่างมาก จึงหาเงินจากทางอื่นเพื่อมาโปะหนี้ที่กู้ยืมมาจนหมด วันนี้จึงตัดสินใจเดินทางเพื่อมาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่

              เช่นเดียวกับหญิงสาวรายนี้ ที่ไปกู้ยืมเงินออนไลน์ผ่านระบบแอพพลิเคชั่น ด้วยเหตุผลที่ง่ายเพียงบัตรประชาชนใบเดียว พร้อมกับกรอกข้อมูลส่วนบุคคลและเบอร์โทรศัพท์ของคนใกล้ชิด เป็นเงินจำนวน 1,000 บาท และต้องจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย จำนวน 1,359 บาท ภายในระยะเวลา 7 วัน แต่ผ่านไปเพียง 5 วัน ก็มีคนโทรมาทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ จึงตัดสินใจจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยตามตกลง และไม่ประสงค์ที่จะกู้ยืมเงินอีก แต่เมื่อจ่ายเงินไป กลับพบมีการโอนเงินจำนวน 2,000 บาท เข้ามาในบัญชีธนาคารของเธอโดยที่ไม่ได้กู้แต่อย่างใด และเมื่อตรวจสอบในระบบแอพพลิเคชั่น พบเป็นหนี้พร้อมดอกเบี้ยรวม 2,800 บาท จึงติดต่อไปยังแอดมิน ทราบว่า เมื่อจ่ายหนี้ครบแล้ว ระบบจะทำการกู้เงินให้อัติโนมัติและเพิ่มขึ้นจากยอดเดิม เธอจึงขอคืนเงินจำนวนดังกล่าวไปเพราะไม่มีความต้องการ แต่กลับถูกปฎิเสธและยังข่มขู่ให้จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ยให้ครบตามกำหนด จนวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัย และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ลงพื้นที่มารับเรื่องราวร้องทุกข์ทำให้มีความรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจขึ้นบ้าง

                  นายจักรภพ กลิ่นหอม ผู้อำนวยการอำนวยความยุติธรรม 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในอำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น นับร้อยรายได้มีการกู้เงินออนไลน์ผ่านระบบแอพพลิเคชั่น ในอัตราดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด แล้วยังถูกข่มขู่คุกคามจากการติดตามทวงหนี้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งยังนำข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่ในโทรศัพท์มือถือของผู้กู้ไปแบ็คเมล์ข่มขู่คุกคาม หรือมีการโทรหาบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในโทรศัพท์เพื่อเป็นการทวงหนี้ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญและอับอาย จากการสอบถามผู้กู้และตรวจสอบระบบข้อมูลแอพพลิเคชั่นเงินกู้ออนไลน์ พบมีแอพพลิเคชั่นในลักษณะเดียวกันกว่า 50 แอพพลิเคชั่น มีมากกว่า 50 ประเภทสินเชื่อ โดยแต่ละแอพพลิเคชั่นจะมีบัญชีม้าอยู่มากกว่า 10 บัญชี และมีฐานข้อมูลเชื่อมโยงกัน ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้ประสานหน่วยงานในพื้นที่มารับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้านโดยตั้งเป้าให้ได้จำนวนผู้เสียหายไม่น้อยกว่า 50 ราย  เพื่อจะดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรม ที่ต้องการปราบปรามแก้งเงินกู้ออนไลน์ให้หมดไป โดยนำร่องที่จังหวัดขอนแก่นเป็นแห่งแรก